หนึ่งในปัญหาที่คุณผู้หญิงหลายๆคนหนักใจก็คือการมีผมหยักศก ผมหยิก และผมชี้ฟูไม่เป็นทรง จนคิดอยากจะไปยืดผมให้ตรงสลวยสวยเก๋เหมือนคนอื่นเขาบ้าง แต่เพราะเห็นข่าวผมพังเพราะร้านเสริมสวยมาเยอะ ก็เลยไม่กล้าลุกไปเปลี่ยนแปลงตัวเองสักที....
วันนี้ Gimmick Hair Salon จะพาไปรู้จักวิธียืดผมทั้งหมด 4แบบ ว่าแต่ละแบบคืออะไร และแบบไหนที่เหมาะกับตัวคุณมากที่สุด
1.ยืดผมแบบธรรมดา
เป็นการยืดแบบใช้น้ำยาและแผ่นยืดทั่วไป ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับสาวงบน้อย วิธีนี้จะช่วยทำให้ผมตรงอย่างเดียว ผลลัพธ์หลังการยืดจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำยาที่ใช้กับฝีมือของช่าง หากไม่ทำทรีตเมนท์ตามก็เสี่ยงปัญหาผมเสีย ผมหัก เพราฉะนั้นควรถามช่างว่าหลังจากการยืดแล้ว ควรรอกี่วันถึงจะทำทรีตเมนท์ได้
2.ยืดผมแบบรีบอนดิ้ง
เป็นวิธีที่ใช้น้ำยาทั่วไปเหมือนกับการยืดแบบธรรมดา แต่ใช้เครื่องหนีบผมแทนแผ่นยืด ทำให้สามารถจัดทรงได้ตามที่ต้องการ ไม่ออกมาตรงชี้หรือลีบแบน แต่ข้อเสียคือ ผมอาจแห้งเสียง่ายเพราะเป็นการนำความร้อนสัมผัสกับผมโดยตรง ควรทำทรีตเมนท์บำรุงหลังยืดผมเช่นกัน
3.ยืดผมแบบเคราติน
เคราติน คือ ส่วนประกอบหลักสำคัญของเส้นผม ที่ถูกทำลายด้วยสารเคมี ความร้อน ทำให้ผมแห้งเสีย ชี้ฟู หยาบ กระด้าง วิธีนี้จึงใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของเคราติน เพื่อเคลือบเส้นผมไม่ให้โดนทำร้ายได้อีก เรียกว่าเหมาะกับสาวๆที่กำลังมีปัญหาเรื่องผมเสียแบบเกินจะเยียวยา และอยากให้ผมกลับมาดูสุขภาพดี พริ้วสวยเป็นเป็นธรรมดา แต่พอทำแล้วผมจะยากต่อการดัดให้อยู่ทรง
4.ยืดผมแบบวอลลุ่ม
ใช้เทคนิคการยืดผมแบบยกโคน เน้นดัดปลายผมให้งุ้มสวย เหมาะกับสาวที่มีผมเส้นเล็ก หยิก หยักศก และมีน้ำหนักเกินไปจนดูลีบแบน ถ้าอยากมีทรงผมที่พองเป็นธรรมชาติสไตล์สาวเกาหลี แบบไม่ต้องเสียเวลาหนีบจัดทรงเองทุกวัน วิธีนี้แหละเริศที่สุด แถมยังช่วยทำให้ใบหน้าดูมีมิติ น่ามองขึ้นด้วย
หน้าที่เข้าชม | 158,849 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 138,243 ครั้ง |
เปิดร้าน | 30 ส.ค. 2563 |
ร้านค้าอัพเดท | 3 ก.ย. 2568 |